Q&A ถาม-ตอบกระดานกระทู้

นำเข้าสินค้าจากจีนต้องเสียภาษีเท่าไหร่? คำตอบไม่ง่ายอย่างที่คิด!

Quote

นำเข้าสินค้าจากจีนต้องเสียภาษีเท่าไหร่? คำตอบไม่ง่ายอย่างที่คิด!

ในยุคที่คนไทยหันมานิยม นำเข้าสินค้าจากจีน ไม่ว่าจะเพื่อนำไปขายต่อหรือนำมาใช้งานเอง คำถามหนึ่งที่เจอบ่อยคือ “ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนต้องเสียเท่าไหร่?” แต่คำตอบไม่ได้ง่ายหรือเป็นตัวเลขเดียวจบเสมอไป

บทความนี้จะพาคุณเข้าใจลึกไปอีกขั้นว่า โครงสร้างภาษีทำงานอย่างไร ปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อค่าภาษีที่ต้องจ่าย และคุณสามารถวางแผนได้อย่างไรเพื่อ ลดต้นทุน เพิ่มกำไร ในการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างมีประสิทธิภาพ

 

Page 71 | China shipping Images - Free Download on Freepik

 

🧭 ภาพรวมการนำเข้าสินค้าจากจีนในบริบทของไทย

ทำไมสินค้าจากจีนถึงเป็นที่นิยม

  • ราคาถูก คุณภาพใช้ได้
  • มีตัวเลือกหลากหลายตั้งแต่อุปกรณ์ไอที เสื้อผ้า ไปจนถึงอะไหล่เครื่องจักร
  • สั่งซื้อสะดวกผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Alibaba, 1688, Taobao ฯลฯ

ความสำคัญของการเข้าใจภาษีนำเข้า

  • มีผลต่อ “ราคาขาย” และ “กำไรสุทธิ”
  • ช่วยป้องกันปัญหาศุลกากร เช่น สินค้าติดด่าน หรือต้องเสียค่าปรับ
  • วางแผนธุรกิจนำเข้าได้ชัดเจนขึ้น

 

⚖️ โครงสร้างภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเข้าไทยเป็นอย่างไร?

โดยทั่วไป เมื่อคุณนำเข้าสินค้าจากจีนมายังไทย คุณจะต้องเจอกับภาษีหลักๆ ดังนี้:

  1. อัตราภาษีศุลกากร (Import Duty)
  • คิดเป็น % ของมูลค่าศุลกากร (CIF)
  • อัตราแตกต่างกันไปตามพิกัดสินค้า (HS Code) เช่น
    • เสื้อผ้า: 30%
    • เครื่องใช้ไฟฟ้า: 10-20%
    • สินค้าทั่วไป: 5-30%
  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  • อัตราคงที่ 7% ของ (มูลค่าสินค้า + ภาษีนำเข้า)
  1. ภาษีสรรพสามิต (ถ้ามี)
  • เช่น สุรา บุหรี่ เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ
  • ต้องเช็คเฉพาะรายสินค้า

 

🌏 FTA และสิทธิพิเศษทางภาษี: ไทย-จีน ได้เปรียบหรือไม่?

ไทยกับจีนมีข้อตกลง FTA (Free Trade Agreement) ซึ่งบางสินค้าจะ ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า หรือเสียในอัตราต่ำมาก เช่น 0-5%
เงื่อนไขคือ

  • ต้องมี ใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form E)
  • สินค้าต้องผลิตในจีนอย่างถูกต้องตามเกณฑ์

👉 ดังนั้น ก่อนนำเข้าสินค้า ควรถามผู้ขายเสมอว่ามี “Form E” หรือไม่

 

🧮 ปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนภาษี ‘ไม่ตายตัว’

พิกัดศุลกากร (HS Code)

ระบุชนิดของสินค้า เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
แต่ละ HS Code มีอัตราภาษีแตกต่างกัน

มูลค่าของสินค้า (CIF Value)

CIF = Cost (สินค้า) + Insurance + Freight (ค่าขนส่ง)
คือมูลค่าที่ใช้คำนวณภาษี

เงื่อนไขขนส่งและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

  • ถ้าใช้ Shipping/Forwarder บางเจ้าอาจบวกรวมภาษีไว้แล้ว
  • ค่าดำเนินการศุลกากร ค่าเอกสาร ฯลฯ ก็เป็นต้นทุนแฝงที่ต้องคำนึงถึง

 

📊 ตัวอย่างการคำนวณภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนแบบง่ายๆ

ตัวอย่าง:
นำเข้าเครื่องครัวมูลค่า 10,000 บาท ค่าขนส่ง 2,000 บาท

  • CIF = 12,000 บาท
  • ภาษีนำเข้า = 20% → 2,400 บาท
  • VAT 7% = 7% ของ (12,000 + 2,400) = 1,008 บาท

รวมภาษีที่ต้องจ่าย: 3,408 บาท

 

🧠 ข้อควรระวังและเทคนิคการวางแผนภาษีนำเข้าให้คุ้มค่า

✅ ขอใบ Form E ให้ได้สิทธิพิเศษทางภาษี
✅ ตรวจสอบ HS Code ก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เสียภาษีเกินจริง
✅ ใช้ Shipping ที่เชี่ยวชาญงานศุลกากร ลดความเสี่ยงสินค้าติดด่าน
✅ พิจารณาสั่งแบบ รวมตู้ (Consolidation) เพื่อประหยัดค่าส่ง
✅ ตรวจสอบพิกัดและภาษีผ่านเว็บกรมศุลกากร: http://www.customs.go.th

 

สรุป เข้าใจภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน = ลดต้นทุน เพิ่มกำไรระยะยาว

ดูเข้ามูลเพิ่มเติมได้ที่ นำเข้าสินค้าจากจีน ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีในยุคโลกาภิวัตน์ แต่ถ้าไม่เข้าใจเรื่องภาษี อาจทำให้ต้นทุนพุ่งไม่รู้ตัว

การวางแผนล่วงหน้า ศึกษากฎเกณฑ์ และปรับกลยุทธ์ตามสินค้าแต่ละประเภท จะช่วยให้คุณ ลดต้นทุน เพิ่มกำไร และขยายธุรกิจได้อย่างมั่นคงในระยะยาว