Q&A ถาม-ตอบ

นักกีฬาโอลิมปิกทุกคนใช้ร่างกายจนเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร จริงหรือไม่?

Quote

นักกีฬาโอลิมปิกทุกคนใช้ร่างกายจนเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร จริงหรือไม่?

Olympics Images - Free Download on Freepik

ภาพของนักกีฬาโอลิมปิกที่โลดแล่นในสนามแข่งขันด้วยพละกำลังและความสามารถทางร่างกายที่น่าทึ่ง ทำให้เราต่างชื่นชมในความทุ่มเทและการฝึกซ้อมอย่างหนักของพวกเขา แต่ในขณะเดียวกัน ก็เกิดคำถามที่น่าขบคิดตามมาว่า การผลักดันร่างกายให้ไปถึงขีดสุดเช่นนั้น จะส่งผลให้ร่างกายของพวกเขาเสื่อมสภาพเร็วกว่าคนทั่วไปเมื่อถึงวัยเลิกเล่นหรือไม่? ความเชื่อที่ว่านักกีฬาระดับโลกมักจะต้องแลกความสำเร็จมากับสุขภาพที่ถดถอยก่อนวัยอันควรนั้น เป็นความจริงมากน้อยเพียงใด?

 

เหรียญด้านที่หนึ่ง: สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่ยอดเยี่ยม

หากมองในแง่ของสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะระบบหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Health) และระบบเผาผลาญ (Metabolic Health) ต้องบอกว่านักกีฬาระดับอีลิทนั้นมีสุขภาพที่ดีกว่าคนทั่วไปอย่างมาก การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอทำให้หัวใจและปอดแข็งแรง, มีอัตราการเผาผลาญที่ดี, และมีความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, และโรคหัวใจ น้อยกว่าคนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ

 

เหรียญด้านที่สอง: ความเสี่ยงของระบบกระดูกและข้อ

ในทางกลับกัน เหรียญอีกด้านที่น่ากังวลคือสุขภาพของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal System) การฝึกซ้อมที่หนักหน่วงและซ้ำๆ เป็นเวลาหลายปี ย่อมสร้างภาระและการสึกหรอให้กับข้อต่อ, กระดูกอ่อน, และเส้นเอ็นต่างๆ มากกว่าคนปกติ งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่านักกีฬาที่เลิกเล่นแล้ว มีอัตราการเกิดโรคข้อเสื่อมในข้อต่อที่ใช้งานหนักเฉพาะทางกีฬานั้นๆ สูงกว่าคนทั่วไป

 

จุดอ่อนสำคัญ: "กระดูกสันหลัง" ของนักกีฬา

กระดูกสันหลังคือแกนกลางของร่างกายที่ต้องรับแรงกระแทกและแรงบิดมหาศาลในระหว่างการฝึกซ้อมและการแข่งขัน กีฬาบางประเภทมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังสูงเป็นพิเศษ

  • กีฬายกน้ำหนัก: มีแรงกดทับต่อหมอนรองกระดูกสันหลังโดยตรง
  • ยิมนาสติก: มีการบิดและแอ่นตัวอย่างรุนแรง
  • กีฬาที่ต้องปะทะ (Contact Sports): เช่น รักบี้, อเมริกันฟุตบอล, หรือยูโด
  • กีฬาที่ใช้การบิดหมุนลำตัว: เช่น กอล์ฟ, เทนนิส, หรือพายเรือ

 

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: การบาดเจ็บที่อาจดับฝัน

แรงกดทับและการบิดหมุนที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อาจทำให้หมอนรองกระดูกซึ่งเป็นเหมือนโช้คอัพของกระดูกสันหลังเกิดการฉีกขาดและมีส่วนที่ปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาท ภาวะนี้คือสิ่งที่เรียกว่า หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งเป็นการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยในนักกีฬาและอาจรุนแรงถึงขั้นต้องยุติอาชีพการแข่งขัน อาการที่พบคือปวดหลังรุนแรง, ปวดร้าวลงขาเหมือนไฟฟ้าช็อต, และอาจมีอาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย

 

แนวทางการรักษา หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

เป้าหมายหลักในการ รักษา หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สำหรับนักกีฬาคือการทำให้อาการปวดหายไปและสามารถกลับไปแข่งขันได้อีกครั้ง โดยจะเริ่มต้นด้วยวิธีแบบประคับประคองก่อนเสมอ

  • การพักและปรับเปลี่ยนการฝึกซ้อม
  • การทำกายภาพบำบัด: เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวให้แข็งแรงและลดแรงกดทับที่เส้นประสาท
  • การใช้ยา: เพื่อลดอาการปวดและลดการอักเสบ

 

Olympics Images - Free Download on Freepik

 

เมื่อการผ่าตัดคือทางเลือก: จะเลือกโรงพยาบาลอย่างไร

แต่ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก, มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงชัดเจน, หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบประคับประคอง การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกเดียวที่จะช่วยให้นักกีฬาสามารถกลับมาใช้ชีวิตและแข่งขันได้ คำถามที่ตามมาทันทีคือ ผ่าตัดกระดูกสันหลัง รพ.ไหนดี?

 

เกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลสำหรับผ่าตัดกระดูกสันหลัง

การเลือกสถานพยาบาลและทีมแพทย์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์การรักษา โดยเฉพาะกับนักกีฬาที่ต้องการการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและสมบูรณ์ที่สุด

  • ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ควรเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคกระดูกสันหลังโดยตรง และถ้าจะให้ดีควรมีประสบการณ์ในการรักษานักกีฬา
  • เทคโนโลยีการผ่าตัดแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery): เป็นเทคนิคการผ่าตัดสมัยใหม่ที่บาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อน้อย, เสียเลือดน้อย, และที่สำคัญคือใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่าการผ่าตัดแบบเปิดแผลปกติมาก ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬา
  • โปรแกรมกายภาพบำบัดที่แข็งแกร่ง: การฟื้นฟูหลังการผ่าตัดคือหัวใจสำคัญ โรงพยาบาลที่ดีควรมีทีมนักกายภาพบำบัดที่เชี่ยวชาญในการออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูสำหรับนักกีฬาโดยเฉพาะ
  • ชื่อเสียงและประสบการณ์ของโรงพยาบาล: พิจารณาจากผลงานและความสำเร็จในการรักษาเคสที่ซับซ้อน